ย้ายล้างบางมือขวา 'สนธิ' ซื้อใจ 'สมัคร-ทักษิณ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เซ็นในคำสั่ง ทบ.ที่ 118/2551 แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษ หรือระดับผู้บังคับการกรม ซึ่งเป็นหน่วยคุมกำลัง จำนวน 104 คน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า นายทหารรบพิเศษที่เป็นมือขวา และเป็นผบ.หน่วยช่วงที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำรัฐประหาร ให้พ้นตำแหน่งคุมกำลัง พร้อมจัดแถวทหารรบพิเศษใหม่ ทั้งนี้ ที่ฮือฮาที่สุด คือ การสั่งเด้ง เสธ.ยอง หรือ พ.อ.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 (ผบ.รพศ.1) นายทหารมือขวาพล.อ.สนธิ พ้นการคุมกำลัง มาเป็นผู้อำนวยการกองยุทธการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผอ.กยก.นสศ.) โดยพ.อ.ภูมิพัฒน์ เป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการมือหนึ่งของพล.อ.สนธิ และเป็นหนึ่งใน 8 นายทหารที่ร่วมวางแผนในการยึดอำนาจ 19 ก.ย.2549 ด้วย นอกจากนี้ คำสั่งย้ายยังรวมถึง พ.อ.ชัยชนะ นาคเกิด ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 (ผบ.รพศ.3) นายทหารมือหนึ่งของรบพิเศษ จากการคุมกำลัง ไปเป็นเสนาธิการ กองพลรบพิเศษ ที่ 1 (เสธ.พล.รพศ.1) สำหรับการสั่งย้ายครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางการจับตามองว่า พล.อ.อนุพงษ์ ต้องการพิสูจน์ให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ตัวเองไม่ใช่พวกคมช.อีกต่อไปแล้ว รวมทั้งเป็นการกระชับอำนาจในการคุมกำลังปฏิวัติในมือของพล.อ.อนุพงษ์ อย่างเบ็ดเสร็จ ก่อนหน้านี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งเด้งพล.ท.สุนัย สัมปัตตะวนิช ผบ.นสศ. นายทหารที่สนิทสนมกับ พล.อ.สนธิ เข้ากรุในตำแหน่งที่ปรึกษาทบ. แล้วตั้งให้ พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ เพื่อนสนิทเตรียมทหาร 10 มาเป็น ผบ.นสศ.คนใหม่แทน โดยที่พล.ท.ภุชงค์ นั้นก็เป็นที่รู้กันดีว่า มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับพล.อ.สนธิ จนถูกจับตามอง ตั้งแต่รับตำแหน่ง เมื่อ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้วว่า จะมีการล้างบางนายทหารในสายของพล.อ.สนธิ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด แหล่งข่าวรบพิเศษ อ้างว่า การย้าย พ.อ.ภูมิพัฒน์ เนื่องจากขึ้นมาเป็นผู้บังคับการกรมเร็วเกินไป ด้วยเพราะเป็นเตรียมทหารรุ่น 24 ส่วน พ.อ.ชัยชนะ เป็นผู้บังคับการกรมมานานถึง 4 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถย้ายขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษได้ เพราะมีนายทหารรุ่นพี่รอจ่อคิวอยู่หลายคน  ส่วนผู้ที่ได้มาแทน พ.อ.ภูมิพัฒน์ คือ พ.อ.วินัย ฉ้งทับ เสนาธิการ พล.รพศ.1 ซึ่งเป็นนายทหารรุ่นพี่ที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับของหน่วย โดยเป็นเตรียมทหารรุ่น 18 ขณะที่พ.อ.อุดมศักดิ์ บัวพรหมมาตร์ ผอ.กองปฏิบัติการ พล.รพศ.1 มาเป็น ผบ.รพศ.3 แทน พ.อ.ชัยชนะ นอกจากนี้ ยังมีการย้ายสลับทหารรบพิเศษในหลายตำแหน่ง โดยย้ายนายทหารที่ได้ชื่อว่าสนิทสนมกับ พล.อ.สนธิ และพล.ท.สุนัย ออกจากตำแหน่งสำคัญ อาทิเช่น ให้พ.อ.ธนา วิทยวิโรจน์ มาเป็น รองผบ.ศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.) แล้วให้ พ.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท มาเป็น รองเสธ.นสศ. แทน  พล.อ.อนุพงษ์ ยังโยกย้ายระดับผู้บังคับการกรมหลายหน่วย โดยส่งเด็กในคาถาที่เติบโตในกองทัพภาค 1 และกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ออกไปคุมกำลัง อาทิเช่น พ.อ.สิงห์ทอง หมีทอง จากนายทหารฝ่ายเสธ.หน้าห้อง ซึ่งเป็นลูกน้องที่โตมาในพล.1 รอ. ไปเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 19 (ผบ.ร.19) จ.กาญจนบุรี ซึ่งก็เป็นหน่วยของพล.ร.9 ที่มาร่วมรัฐประหารด้วย โดยเด้งพ.อ.สู่ชัย บุญรัตน์ มาเป็น รอง ผบ.มทบ.13 จ.ลพบุรี แทน และตั้ง พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล จากผอ.กองยุทธการ กองทัพภาค 1 เป็นผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.ป.1 รอ.) คุมกำลังปฏิวัติในกรุงเทพฯ

ผู้ตั้งกระทู้ บก. :: วันที่ลงประกาศ 2008-04-13 05:27:42 IP : 222.123.157.115

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล