สำหรับหมวดทหารราบเบาใน การทำลายบังเกอร์ ตามที่ได้ศึกษามาจากคู่มือราชการสนาม ๗-๘ ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา รายละเอียดตามเอกสารที่ได้แจกจ่ายไปนั้น มีแนวทางการปฏิบัติสรุปได้ดังนี้ คือ
หมวดเคลื่อนที่เป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยและตรวจพบข้าศึกอยู่ในบังเกอร์ หมู่ที่ปะทะกับข้าศึกรีบจัดตั้งฐานยิง ผบ.มว. พลวิทยุโทรศัพท์ ผตน.ของ มว. และชุดยิง ปก. ๑ ชุด เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อติดต่อกับ ผบ.หมู่ ที่กำลังปะทะกับข้าศึก รอง ผบ.มว. เคลื่อนที่ขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกับชุดยิง ปก.ชุดที่ ๒ และรีบจัดตั้งฐานยิงสนับสนุนร่วมกับหมู่ที่เป็นฐานยิงอยู่แล้ว
หมู่ที่เป็นฐานยิง
ทำลายหรือยิงข่มอาวุธประจำหน่วยของข้าศึกเป็นลำดับแรก จำกัดการตรวจการณ์ของข้าศึกด้วยการยิง ลย.ควัน (M.203) เข้าไปยังที่ตั้งของข้าศึก ทำการยิงกดข้าศึกโดยการใช้อัตราการยิงที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผตน. ของ มว. ร้องขอและปรับการยิงอาวุธวิถีโค้ง ภายใต้คำสั่งและการอำนวยการของ รอง.ผบ.มว.
ผบ.มว. พิจารณาว่า มว.จะสามารถดำเนินกลยุทธ์ได้หรือไม่ โดยวิเคราะห์จาก
- บังเกอร์หรือหลุมบุคคลปิดของข้าศึก ที่มั่นสนับสนุนอื่นๆ และเครื่องกีดขวางต่าง ๆ
- ขนาดกำลังของข้าศึกที่ปะทะอยู่กับหมวด (จำนวนของอาวุธกลของข้าศึก การปรากฏของยานพาหนะของข้าศึก และการใช้อาวุธวิถีโค้งในการยิงสนับสนุน จะเป็นเครื่องชี้บ่งขนาดกำลังของข้าศึก)
- จุดล่อแหลมทางปีกของข้าศึกอย่างน้อย ๑ บังเกอร์
- เส้นทางเคลื่อนที่ที่มีการกำบังและซ่อนพราง ที่จะเคลื่อนที่เข้ามาทางปีกของบังเกอร์นั้น
ผบ.มว. จะพิจารณาว่าหลุมบังเกอร์หลุมใดที่จะต้องถูกทำลายก่อนเป็นอันดับแรก แล้วสั่งการให้ ๑ หมู่ (ที่ยังไม่ได้ปะทะกับข้าศึก) เข้าทำลายบังเกอร์นั้นเสีย หากจำเป็นก็ให้ รอง ผบ.มว. จัดวางกำลังของหมู่, ชุดยิง ปล. หรือชุดยิง ปก. ใหม่ เพื่อทำการยิงกดและแยกบังเกอร์หลุมนั้นให้อยู่โดดเดี่ยวหรือตัดขาดจากกำลังส่วนอื่น
หมู่ที่ดำเนินกลยุทธ์เข้าโจมตี พร้อมด้วย ผบ.มว. และพลวิทยุ ใช้การเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่มีการกำบังและซ่อนพราง แล้วเข้าทำลายบังเกอร์ ผบ.หมู่ พร้อมกับชุดยิงที่เป็นส่วนโจมตี เคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่มีการกำบังและซ่อนพรางเข้าไปทางปีกของบังเกอร์
ชุดยิงส่วนโจมตีเคลื่อนที่เข้าหาบังเกอร์ด้านที่เป็นมุมอับสายตาของบังเกอร์ และต้องไม่ขวางการยิงของส่วนยิงสนับสนุน
ในระหว่างการปฏิบัติทหารทุกคนต้องตรวจการณ์ไปรอบ ๆ เพื่อดูว่ามีบังเกอร์หรือที่ตั้งข้าศึกบริเวณอื่นที่สามารถสนับสนุนบังเกอร์ที่กำลังจะทำลายหรือไม่
เมื่อเคลื่อนที่ไปถึงตำแหน่งที่ให้การกำบังและซ่อนพรางขั้นสุดท้ายแล้ว จะต้องปฏิบัติดังนี้ หน.ชุดยิง และพลยิง ปลก. หยุดอยู่กับที่ แล้วเสริมอำนาจการยิงกดข้าศึกที่อยู่ในบังเกอร์ (รวมทั้งการใช้ อว.ตถ. ขนาดเบา ช่วยในการยิงกด)
ผบ.หมู่ วางตัวในที่ซึ่งสามารถควบคุมหมู่ได้ดีที่สุด เมื่อ ผบ.หมู่ ใช้สัญญาณ ส่วนฐานยิงสนับสนุน จะต้องเลื่อนหรือย้ายการยิงไปยังด้านตรงข้ามของบังเกอร์ที่ส่วนโจมตีเคลื่อนที่เข้าไป
พลยิง M.203 และ พล.ปล. เคลื่อนที่ไปยังจุดอับสายตาของบังเกอร์ โดยคนหนึ่งเคลื่อนที่เข้าที่กำบังใกล้กับทางออกของบังเกอร์ ส่วนอีกคนหนึ่งถอดสลักลูกระเบิด ขว้างแล้วตะโกนให้สัญญาณและขว้างลูกระเบิดเข้าไปที่ช่องบังเกอร์
หลังจากลูกระเบิดเกิดการระเบิดขึ้นแล้ว ทหารคนที่หมอบอยู่ใกล้กับทางออกของบังเกอร์ทำการยิงด้วยจังหวะสั้น ๆ เพื่อทำลายข้าศึกในบังเกอร์ ส่วนคนที่ขว้างระเบิดไม่ควรรีบเข้ากวาดล้างบังเกอร์หลังจากปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วเสร็จสิ้น
ผบ.หมู่ ตรวจสอบให้มั่นใจว่าบังเกอร์ถูกทำลายแล้ว รายงานให้ ผบ.มว.ทราบ และจัดระเบียบใหม่ (ถ้าจำเป็น) หลังจากนั้นปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบต่อไป
ส่วนหมวดเมื่อได้รับรายงานความสำเร็จของการทำลายบังเกอร์แล้วจะขยายผลเพื่อทำลายบังเกอร์ต่อไป
หากจำเป็น ผบ.มว. จะกำหนดที่ตั้งให้กับหมู่ที่ทำหน้าที่ฐานยิงสนับสนุน เพื่อทำการยิงกดและแยกบังเกอร์ที่เหลือออกจากกัน และเพื่อรักษาการยิงกดไว้ให้ต่อเนื่อง
ผบ.มว. อาจจะใช้ส่วนฐานยิงสนับสนุนหรือส่วนโจมตีเข้าทำลายบังเกอร์ที่เหลือต่อไปก็ได้
หมายเหตุ : ผบ.มว. จะต้องพิจารณาสภาพของหมู่ที่มอบหมายให้ทำลายบังเกอร์ว่า
มีกระสุนเพียงพอหรือไม่
มีความเหนื่อยล้าจากการปฏิบัติที่ผ่านมาหรือไม่
หากพิจารณาแล้วว่ากระสุนอาจไม่เพียงพอหรือมีความเหนื่อยล้ามาก จะต้องสับเปลี่ยนให้หมู่อื่นขึ้นไปทำหน้าที่แทน
เมื่อ ผบ.มว. ให้สัญญาณ ส่วนฐานยิงเลื่อนหรือย้ายการยิงไปด้านตรงข้ามกับด้านที่ส่วนโจมตีกำลังทำการโจมตี
ในขณะเดียวกัน ผตน. ของ มว. ร้องขอการเลื่อนการยิงอาวุธเล็งจำลอง เพื่อทำการแยกที่ตั้งข้าศึกออกจากกัน
หมู่ที่เป็นส่วนโจมตีเข้าทำลายบังเกอร์ต่อไป
ผบ.มว. รายงานให้ ผบ.ร้อย. ทราบผลการปฏิบัติ ทำการจัดระเบียบใหม่ (หากจำเป็น) และปฏิบัติภารกิจต่อไป
กองร้อยติดตามและขยายผลความสำเร็จของหมวด และเข้าตีที่มั่นข้าศึกต่อไป
ร.อ. ไกรศัลย์ คุ้มวิเชียร ผบ.ร้อย.อวบ.ร.๙ พัน.๒ ร้อย.๓ เรียบเรียง /จัดทำ
พ.อ. ดนัย บุญตัน รอง เสธ.พล.ร.๙ ตรวจ