
บทความเรื่อง “ พระมหากษัตริย์ นักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ สู่...พระบิดาแห่งฝนหลวง ”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลก ที่ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อพสกนิกร ด้วยการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อความผาสุกของอาณาประชาราษฎร ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร เสมือนหนึ่งเป็นความทุกข์ของพระองค์ ทรงใช้พระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ พระราชทานโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการพัฒนาชาติและประโยชน์ของทุกคน
“ ฝนหลวง ” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในความเดือดร้อน ของพสกนิกรแล้ว ยังแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ในการแก้ปัญหาภัยแล้ง ทุกครั้งที่ประเทศไทย ต้องเผชิญภัยแล้ง หรือฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล พืชไร่ นาข้าวเสียหาย เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง ผืนดินแตกระแหง แม่น้ำลำคลองแห้งขอด นำความทุกข์สิ้นหวังมาสู่ราษฎรอย่างมากมาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงนิ่งเฉยจะทรงตรากตรำพระวรกายศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทรงวิเคราะห์ และพระราชทานคำแนะนำแก่ผู้เกี่ยวข้อง จนนำมาสู่ “ ปฏิบัติการฝนหลวง ” ในที่สุด
ฝนหลวง คือ การนำกระบวนการจัดการทรัพยากรน้ำในบรรยากาศมาใช้ประโยชน์ โดยการเหนี่ยวนำไอน้ำในบรรยากาศให้กลั่นตัวเป็นละอองน้ำ ซึ่งเมื่อรวมตัวกันหนาแน่นจะทำให้เกิดเป็นเมฆ และเมื่อเร่งให้เมฆรวมตัวกันหนาแน่นจนเพิ่มปริมาณมากขึ้นจะทำให้เกิดฝนตกได้ กล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาค้นคว้าและทดลองจน ณ ปัจจุบัน สามารถบังคับฝนตกสู่พื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ จากสภาพแห้งแล้งกันดาร กลับกลายเป็นความสดชื่น ชุ่มฉ่ำอีกครั้งหนึ่ง พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องฝนหลวงเป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบน้อมเกล้าฯ ถวายพระนามเพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติให้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และกำหนดให้วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง”
เนื้อเรื่องโดย หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ
***************************************