.JPG) |
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสแก่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) และคณะผู้บริจาคเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลให้กับศูนย์สงเคราะห์ราษฎรยากจนในแดนทุรกันดาร เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๑ ณ พระราชวังสวนจิตรลดา |
“ ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ที่นำเงินมาบริจาคช่วยศูนย์สงเคราะห์ ผู้ยากจนในแดนทุรกันดารฯ ความจริงการบริจาคเงินนั้น ก็เพียงแต่นำเงินมามอบให้ ซึ่งภาระยังไม่ควรจะหยุดอยู่แค่นั้น เพราะเจตนา ของศูนย์ฯ ไม่ประสงค์แต่จะเพียงรับเงินบริจาคอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราต้องการให้นักวิชาการ หรือผู้ที่มีความรู้ และผู้ที่มีจิตเสียสละไปช่วยราษฎรที่ยากจน เพื่อแนะนำให้เขาทั้งหลาย ได้มีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ โปรดเข้าใจว่าการที่เราเพียงนำสิ่งของไปช่วยนั้น เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว ซึ่งจะมีวันสิ้นสุด โดยที่ผู้รอรับการช่วยเหลือ เขารอรับสิ่งของที่จะนำไปนั้น และถ้าเขาไม่ได้ ตามที่เขาหวังไว้ ก็จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ฉะนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายควรที่จะหาวิธีการช่วยเหลือ หาอาชีพให้ราษฎร ที่ยากจนในท้องถิ่นทุรกันดารได้ประกอบอาชีพตั้งหลักตั้งฐาน อยู่ใน ท้องถิ่นของตน เลี้ยงตนเองและครอบครัวอย่างมีความผาสุกต่อไป ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอย่าคิดว่าเมื่อเราช่วยเหลือครั้งนี้แล้วก็หยุดถ้า มีโอกาสที่เราจะช่วยได้ก็จงช่วยกัน ต่อ ๆ ไป และการที่ช่วยเหลือนี้ก็อย่าคิดว่าเรา จะไม่ได้รับผลตอบแทน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการเสียสละของท่านทั้งหลายในส่วนที่เป็นกุศลนี้มีคุณค่ามหาศาล ยากที่จะหาสิ่งตอบแทนใดมาเทียบกันมิได้ นับว่าการกระทำของท่านทั้งหลายเป็นสิ่งที่น่าชมเชย และ เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง..”
.JPG) |
กองกำลังสุรสีห์ ได้น้อมรับพระราชดำรัส ใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำพระราชดำรัส ดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการให้การช่วยเหลือราษฎร ที่ยากจนในท้องถิ่นทุรกันดารฯ ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน และพื้นที่ตอนใน เพื่อสนองในพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน ให้เกิดเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป
|
.gif) |
กองพลทหารราบที่ ๙ เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ ๑ มีที่ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๑ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับมอบภารกิจในการป้องกันประเทศและพัฒนาประเทศ โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มอบให้ กองพล ทหารราบที่ ๙ จัดตั้งกองกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันตก คือ “ กองกำลังสุรสีห์ ” |
 |
รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนด้านตะวันตก ทั้ง ๔ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดราชบุรี, จังหวัดเพชรบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๑ ได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในภาค ๑ ส่วนแยก ๒ ในด้านการพัฒนาประเทศ ได้แบ่งมอบให้ดำเนินการกู้วิกฤติเศรษฐกิจ ในพื้นที่รับผิดชอบ และจัดกำลังรักษาความสงบภายใน ในพื้นที่ ๓ จังหวัดภาคใต้
กองกำลังสุรสีห์ ประกอบกำลังจากหน่วยในกองทัพบก และ หน่วยนอกกองทัพบก ประกอบด้วย ส่วนต่าง ๆ ดังนี้ ส่วนบังคับบัญชา, ส่วนอำนวยการปฏิบัติ, ส่วนกำลังรบหลัก และ ส่วนกำลังหลักนอกกองทัพบก ตามอัตราการจัดเฉพาะกิจ คือ หน่วยขึ้นตรง, หน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ, หน่วยขึ้นสมทบ และ หน่วยสนับสนุน โดยมี พลตรีอุดมเดช สีตบุตร เป็นผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์
.JPG)
ภารกิจ การป้องกันชายแดนในเขตรับผิดชอบ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย รักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อย บริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดน ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดราชบุรี, จังหวัดเพชรบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมอำเภอ ๑๗ อำเภอ ๓๘ ตำบล ๓๔๖ หมู่บ้าน ตามความยาวตลอดแนวชายแดนไทย - พม่า ทั้งสิ้น ๘๔๖ กิโลเมตร จากการปฏิบัติงานตามภารกิจและพันธกิจ ที่ได้รับมอบ เพื่อทำให้ตลอดแนวชายแดนในเขตรับผิดชอบ มีความมั่นคงปลอดภัย มีความพร้อม ในการเอาชนะภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นได้ เกิดการบูรณาการกำลังร่วมกันทุกฝ่าย ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ศรัทธา ต่อกำลังป้องกันชายแดน พร้อมที่จะปฏิบัติงานร่วมกัน การดำเนินงานในการช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณแนวชายแดนไทย - พม่า ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ยังได้ดำเนินการในพื้นที่ภายในอีกด้วย นับตั้งแต่ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ท่านปัจจุบัน ได้มอบนโยบาย ในการปฏิบัติงานให้แก่ หน่วย/ฝ่าย ต่าง ๆ นำไปปฏิบัติ นโยบายที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ การให้หน่วยเฉพาะกิจ ทั้ง ๓ หน่วย ไปดำเนินการสำรวจตรวจสอบ ความเป็นอยู่ของราษฎรที่ยากจนและได้รับ ความเดือดร้อนในเรื่อง ต่าง ๆ อาทิเช่น ได้รับความเดือดร้อน ในความเป็นอยู่, สภาพครอบครัวที่ยากจน, ไม่มีอาชีพ, ไม่มีรายได้, รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ภายในครอบครัว และที่อยู่อาศัยมีสภาพพุพังและทรุดโทรม หากตรวจพบให้เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือราษฎรในขั้นต้น หลังจากนั้นให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปให้การช่วยเหลือต่อไป
ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๑ เป็นต้นมาจนถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๒ กองกำลังสุรสีห์ ได้ให้การช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก,ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของที่พักอาศัย และสภาพครอบครัวขาดผู้ดูแล จำนวน ๙ ครอบครัว ดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก (จัดจาก กรมทหารราบที่ ๒๙) ร่วมกับคณะครู และราษฎรในพื้นที่บ้านป่าหมาก ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วยกันดับเพลิงที่ไหม้บ้าน นาย พอพาน โคสิน ราษฎรบ้านป่าหมาก แต่ไม่สามารถดับเพลิงไหม้ได้เนื่องจากกระแสลมกรรโชกแรง ทำให้บ้านและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกไฟไหม้เสียหายหมด หน่วยฯ ได้ให้ความช่วยเหลือในขั้นต้น พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคและบริโภค ประเภท ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อดำรงชีพ และได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าไปให้การช่วยเหลือต่อไป
จากการที่ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙, ประธานสมาคมแม่บ้าน ทหารบก สาขา กองทัพภาค ที่ ๑, ประธานชมรมแม่บ้านทหารบกค่ายสุรสีห์, นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้รับสนองคำสั่ง ร่วมกันให้ความช่วยเหลือราษฎรสองสามีภรรยา ที่ได้รับความเดือดร้อน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและสองสามีภรรยา รู้สึกซาบซึ้งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น
๒. ด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับทราบความเดือดร้อน ของ นาง จี๊ด และ นาย บุญธรรม ม่วงน้อย ราษฎร บ้านถ้ำขุนไกร ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จากสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนในความเป็นอยู่ ที่ยากลำบาก ขาดผู้ดูแล จึงทรงมีรับสั่งให้ รองราชเลขานุการในพระองค์ ประสานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อน พลตรีอุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ ได้รับสนองคำสั่ง โดย เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ ให้ความช่วยเหลือในขั้นต้น ด้วยการปรับปรุงซ่อมแซม ที่พักอาศัย ให้กับครอบครัว นาง จี๊ด และ นาย บุญธรรมฯ เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในส่วนของสมาคมแม่บ้านทหารบกค่ายสุรสีห์ ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปให้การดูแลด้วยความห่วงใย โดยมอบถุงยังชีพ ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคบริโภค ยาตำราหลวง ผ้าห่ม เสื้อผ้า และเงินช่วยเหลือการยังชีพ จำนวน ๕,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งจัดหารถเข็นผู้ป่วยชนิดนั่ง ให้แก่ นาย บุญธรรม ฯ ทดแทนคันเดิมที่ชำรุด

๓. เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (จัดจาก กรมทหารราบที่ ๑๙) ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เข้าให้การช่วยเหลือครอบครัวราษฎร ของ นาง แปร ชาญม่วง อายุ ๗๒ ปี หมู่บ้านแปลง ๕ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ยากจน อยู่รวมกันกับบุตร ๓ คน และหลานชายอีก ๑ คน ชื่อ นาย ตะวัน ปิตุปกรณ์กุล อายุ ๒๗ ปี พิการขาลีบทั้งสองข้าง มาตั้งแต่กำเนิด การให้ความช่วยเหลือ ในขั้นต้น ได้มอบ ข้าวสาร น้ำมันพืช และผ้าห่ม พร้อมทั้งมอบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสิริมงคล และได้ประสานกับ ส่วนราชการในจังหวัดกาญจนบุรี ในการหาที่ฝึกอบรมเป็นช่างรองเท้าให้กับ หลานชาย เพื่อใช้ประกอบอาชีพ ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเขย่ง ได้หาสถานที่เพื่อให้ นาย ตะวัน ฯ รับซ่อมรองเท้า หลังจากได้รับการฝึกฝน แล้ว ต่อไป
.JPG)
.JPG)
๘. เมื่อวันที่ ๒๕ – ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ได้ให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่เขตรับผิดชอบ จังหวัดราชบุรี ด้วยการซ่อมแซมบ้านให้กับ นาย เปาะ โพชิ ราษฎรบ้านห้วยผาก ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งสภาพบ้านโดยรวมชำรุดและพุพัง ซึ่งบ้านทั้งหลังทำด้วยไม้ไผ่ และหลังคามุงด้วยแฝก การดำเนินการได้รับความร่วมมือจากราษฎรในพื้นที่ ในการซ่อมแซมเป็นอย่างดี
๙. เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๒ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ซ่อมแซมบ้านให้กับ นาง เช้า วันเพ็ง ราษฎรไทย บ้านด่านสิงขร บ้านเลขที่ ๕๘/๖ หมู่ที่ ๖ ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทำการซ่อมแซมฝาบ้านที่ชำรุด ด้วยการรื้อถอนที่ชำรุดเปลี่ยนใหม่ และปรับแต่งจัดระเบียบของฝาบ้านใหม่ให้มิดชิด เนื่องจากไม่มีประตู/หน้าต่างฝา หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า ไม่มีห้องน้ำ พร้อมกับได้มอบ พระบรมฉายาลักษณ์ และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ให้กับ นาง เช้าฯ ในการดำรงชีพ นาง เช้า วันเพ็ง อายุ ๗๐ ปี เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย อาศัยอยู่ที่ บ้านด่านสิงขร ตำบลคลองวาฬ สถานะทางครอบครัว สามีได้เลิกรากันไปได้ ประมาณ ๗ ปี และอาศัยอยู่กับหลาน จำนวน ๒ คน ได้แก่ หลานผู้ชาย อายุ ๑๔ ปี ปัจจุบันรับจ้างทั่วไปเพื่อนำรายได้มาช่วยเลี้ยงดู นาง เช้าฯ และหลานผู้หญิง อายุ ๗ ปี ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านด่านสิงขร
.JPG)
.JPG)
การดำเนินการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวในข้างต้น ราษฎรส่วนใหญ่ จะมีฐานะยากจน มีสภาพครอบครัวที่ขาดการดูแลจากสมาชิกในครอบครัว ที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัย ๑ ใน ๕ ของ ปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนมีความต้องการ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การอยู่ร่วมกันในสังคมมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราษฎรไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยในราษฎรของพระองค์ท่าน นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงทอดพระเนตร เห็นความทุกข์ของราษฎร พระองค์ได้หาวิธีการช่วยเหลือ หาอาชีพ และได้ทรงทุ่มเท ทั้งกำลังพระปัญญาและพระวรกาย ตลอดจนพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์อีกจำนวนมหาศาลสุดจะคณานับ ให้ราษฎรของพระองค์ ที่ยากจนในท้องถิ่นทุรกันดารเหล่านั้น ได้ประกอบอาชีพ ตั้งหลักตั้งฐาน อยู่ใน ท้องถิ่นของตน เลี้ยงตนเองและครอบครัวอย่างมีความผาสุกไม่อดอยาก ต่อไป
กองกำลังสุรสีห์ ได้น้อมรับใส่เกล้า ด้วยความภาคภูมิใจ ในการที่ได้สนองพระเดชพระคุณ อันยิ่งใหญ่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้นำแนวทางในการให้ความช่วยเหลือราษฎรตามแนวชายแดนไทย – พม่า และพื้นที่ตอนใน ที่ยากจนและ ด้อยโอกาส อย่างเต็มขีดความสามารถ การช่วยเหลือแทนพระเนตรพระกรรณ ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการ ให้ความอุปการะสงเคราะห์แก่ราษฎรที่ยากจน เป็นความทุกข์เดือดร้อนอย่างใหญ่หลวง น่าเวทนายิ่งนัก ให้คลายความทุกข์และคลายความเดือดร้อน ของราษฎรเหล่านั้น เสมือนความทุกข์ของพระองค์เองด้วยควรจักต้องช่วยเหลือให้เขาบรรเทาทุกข์ลงบ้างตามสมควร เพื่อจะได้มีกำลังกายกำลังใจตั้งตัวทำมาหาเลี้ยงตนเองได้ต่อไป
๔. เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๑ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน บ้านหุบไผ่ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าสำรวจราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ เขตรับผิดชอบ พบว่ามีราษฎรไทย ที่มีฐานะยากจน และได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของ ที่พักอาศัยชำรุด ทรุดโทรมมาก จำนวน ๑ ครอบครัว คือ นาง สมทรง สุวรรณมณี อายุ ๖๘ ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับหลานสาว ๑ คน อายุ ๓ ขวบ สภาพครอบครัว ของนาง สมทรงฯ สามี เสียชีวิตตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ ขาดการดูแลจากบุตร ที่ไปทำมาหากินต่างจังหวัด นาน ๆ จะกลับมาดูแลเป็นครั้งคราว ความเป็นอยู่ชาวบ้านใกล้เคียงได้ให้ความช่วยเหลือ ในเรื่องของอาหารการกินเป็นบางครั้ง และสภาพร่างกาย ของนาง สมทรง ฯ ขาข้างซ้ายขาดเหนือเข่า ซึ่งเกิดจากได้รับอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ เมื่อปี ๒๕๔๖ ที่ผ่านมา หน่วยฯ ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ ของบ้านให้มีความมั่นคงแข็งแรง และประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทราย เข้ามาให้การช่วยเหลือในเรื่องของน้ำประปา และไฟฟ้า การดำเนินการในทุกขั้นตอนได้รับความร่วมมือจาก ผู้นำหมู่บ้านเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้ส่งมอบบ้านให้กับ นาง สมทรงฯ แล้ว หน่วยฯ ยังได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอีกจำนวนหนึ่ง ไว้ดำรงชีพต่อไป
๕. เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๑ หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ (จัดจาก กรมทหารราบที่ ๙) ให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยซ่อมแซมบ้านให้กับครอบครัว นาย ประดุ ผัวหมัง อายุ ๗๑ ปี ราษฎร บ้านห้วยน้ำหนัก หมู่ที่ ๖ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยได้รับความร่วมมือกับราษฎร ในพื้นที่ ในการซ่อมแซมเป็นอย่างดี


๖. เมื่อวันที่ ๒๓ – ๒๕ มกราคม ๒๕๕๒ หน่วยเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ ได้ให้ความช่วยเหลือราษฎร ในพื้นที่เขตรับผิดชอบ จังหวัดราชบุรี ด้วยการซ่อมแซมบ้านให้กับครอบครัว นาย โจเม กัวพู่ ราษฎรบ้านพุระกำ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งสภาพบ้าน พื้นบ้าน และผนังบ้านทำด้วยฝากไม้ไผ่ แต่ชำรุด หลังคามุงด้วยแฝก ป้องกันฝนไม่ได้ เมื่อเวลาฝนตก การดำเนินการได้รับความร่วมมือจากราษฎรในพื้นที่ในการซ่อมแซมเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้มอบบ้านให้ นาย โจเม ฯ แล้ว ทำให้ราษฎรบ้านพุระกำ และหมู่บ้านใกล้เคียง ได้ให้ความใกล้ชิด และเป็นกันเอง กับฝ่ายทหารมากขึ้น
๗. เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ดำเนินการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยให้กับครอบครัว นาย พ้วน คงมาก อายุ ๖๘ ปี ราษฎร บ้านด่านสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภรรยาอายุ ๖๐ ปี และบุตรสาวเป็นบุคคล พิการทางสมอง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ดำเนินการด้วยการซ่อมแซมอุดรอยรั่วหลังคาที่มีสภาพพุกร่อน และทรุดโทรม, สร้างห้องน้ำ และหน้าต่างที่ชำรุด พร้อมกับมอบเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น จำนวนหนึ่ง ไว้ดำรงชีพ