" เสาเกียรติยศ พล.ร.๙ " เพื่อให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้รับรู้เกียรติประวัติ สถานที่ในอดีตที่ กองพลทหารราบที่ ๙ หรือตัวแทนของเราได้ไปปฎิบัติภารกิจ และยังสร้างชื่อเสียงกลับมาสู่หน่วยเป็นอันมาก ลักษณะของ เสาเกียรติภูมิ พล.ร.๙ เป็นเสาไม้ธรรมชาติ (ต้นตะเคียน) ขนาด ๒ คนโอบ สูงประมาณ ๑๑ เมตร ตั้งตรงฝังไว้ในดินที่ความลึกประมาณ ๒ เมตร ฉะนั้น เสาต้นนี้จะมีความสูงประมาณ ๙ เมตร ตัวเสาทาด้วยสีน้ำตาลเข้ม (เป็นสีเคลือบรักษาเนื้อไม้) มีส่วนประกอบ คือ ด้านบนสุดของเสา มีหมวกเหล็ก (จำลอง) สีพรางคลุมด้วยตาข่ายพร้อมยางรัดขอบหมวกและสายรัดคางพร้อมทั้ง ป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในป้ายจะบอก ปี พ.ศ. หรือ ค.ศ., สถานที่, ระยะทาง ชี้ไปทิศทางที่ กองพลทหารราบที่ ๙ เคยไปปฎิบัติภารกิจ ณ สถานที่หรือประเทศนั้น ๆ ตั้งอยู่ตามหลักภูมิศาสตร์ (ปัจจุบันได้ย้ายจากเดิมอยู่ด้านขวามืออาคารกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ ไปตั้งอยู่ด้านหน้าขวามืออาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กองพลทหารราบที่ ๙)
.jpg)
ความหมายเสาเกียรติยศกองพลทหารราบที่ ๙
เสาเกียรติยศกองพลทหารราบที่ ๙ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๙ มิ.ย.๒๕๔๙ ในสมัย พล.อ.อดุล อุบล ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ โดยต้องการให้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในความภาคภูมิใจ และรักในศักดิ์ศรีความเป็นทหารอาชีพของกำลังพลและของหน่วย ตลอดจนเกียรติยศชื่อเสียงในการปฏิบัติงานทางทหารที่บรรพบุรุษของหน่วยได้สะสมกันมาตั้งแต่อดีต
สถานที่ตั้งเสาอยู่ด้านขวามือของกองบัญชาการกองพล ซึ่งถือว่าพวกเขา(บรรพบุรุษของหน่วย) คือกำลังพลของกองพลทหารราบที่ ๙ เช่นเดียวกันพวกเราพวกเขาเป็นกำลังพลหัวแถวที่เข้ามาอยู่ในกองพลก่อนพวกเรา ได้เข้ามาทำงานรับใช้ประเทศชาติและกองพล ถึงแม้พวกเขาจะได้จากกองพลไปแล้ว บางคนก็ได้สละแม้เลือดเนื้อและชีวิตให้แก่หน่วยนี้แต่พวกเขายังคงเป็นหัวแถวของพวกเรา กองพลทหารราบที่ ๙ จะนึกถึงพวกเขาตลอดไป
หมวกเหล็ก M1 ที่วางอยู่บนยอดเสา แสดงถึงการไว้อาลัยแด่ความกล้าหาญและความเสียสละของเขาเหล่านั้นซึ่งก็คือ บรรพบุรุษของพวกเราที่สูญเสียในสมรภูมิต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศป้ายเล็กๆ บนเสา บ่งบอกชื่อของดินแดน และห้วงเวลาที่พวกเขาเหล่านั้น ไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติโดยชี้ตรงไปยังทิศทางของสถานที่เหล่านั้นถึงแม้มันจะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม
เสาต้นนี้ทำจากไม้ตะเคียนทองที่หามาจากในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้นไม้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า ๗๐๐ ปี ต้นเสาไม่ได้ถูกตกแต่งหรือดัดแปลง เพียงแต่ทำความสะอาดและทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ไว้ให้คงสภาพเดิมตลอดไปเท่านั้น เพราะผมต้องการแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นของแท้ไม่มีการดัดแปลง เป็นความจริงที่ไม่ได้มีการเสริมแต่ง และไม่ต้องการการเสริมแต่งไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไปธรรมชาติของทหารก็เป็นเช่นนั้น
"ผมตั้งใจให้เสาต้นนี้ปักอยู่บนพื้นดินไม่ต้องการมีฐานอะไรใหญ่โต เพราะผมต้องการให้กำลังพลนึกถึงความเรียบง่าย ความต้องการความเป็นสมถะของชีวิตในการเป็นทหาร และถ้าคิดให้ลึกซึ้งแล้วเสาต้นนี้เปรียบเป็น Landmark ของจุดสุดท้ายของชีวิต เกิดมาแต่ดิน อยู่บนดินและกลับสู่ดิน" # Cr.พล.อ.อดุล อุบล # พลเอก,ทหารราบ # ๗ พ.ย.๕๔